ทางธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินที่ทางบริษัทแอมเวย์ใช้บริการมีการปรับปรุงความปลอดภัยในการชำระเงิน (Upgrade Payment Security) เป็น 3D Secure เวอร์ชัน 2.0 ที่รองรับเครือข่ายบัตรเครดิตชั้นนำ เช่น Visa, Mastercard, JCB และ Union Pay โดยเน้นเรื่องการเพิ่มความแข็งแรงในกระบวนการยืนยันตัวตนของลูกค้าระหว่างการทำรายการชำระเงินบนธุรกรรมออนไลน์ มีการใช้ข้อมูลเชิงพฤติกรรมจากการใช้งานบนอุปกรณ์ของผู้ถือบัตรมาร่วมประมวลผล จึงไม่จำเป็นต้องใช้ OTP สำหรับการทำธุรกรรมที่มีมูลค่าน้อย หรือผ่านการทำรายการจากอุปกรณ์เครื่องเดิม เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แทบเล็ต ที่เคยทำการสั่งซื้อ
1. ถาม: ทำไมการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตบางครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องใส่ OTP ?
ตอบ: การส่งรายการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตทางบริษัทแอมเวย์ได้ส่งค่าแบบให้มีการขอ OTP ทุกรายการ จากธนาคารเจ้าของบัตร
โดยทางธนาคารผู้ออกบัตรจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะส่ง OTP ให้เจ้าของบัตรยืนยันการชำระเงินหรือไม่ ซึ่งหน้าที่ใช้กรอก OTP จะเป็นหน้าเว็บของแต่ละธนาคาร ดังนั้น ธนาคารจึงเป็นผู้พิจารณาจากประวัติการใช้งานตามเงื่อนไขของธนาคารนั้นๆ ว่าการชำระเงินแต่ละครั้งต้องการ OTP เพื่อยืนยันเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งนี้ หากผู้ถือบัตรต้องการ OTP ทุกครั้งที่ทำรายการ จะต้องติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อแจ้งความต้องการดังกล่าว
2. ถาม: เมื่อไม่จำเป็นต้องใส่ OTP การชำระเงินผ่านแอมเวย์จะยืนยันความปลอดภัยได้อย่างไร ?
ตอบ: ระบบแอมเวย์ใช้บริการ Payment Gateway ที่มีความปลอดภัย รองรับ 3D Secure 2 (3DS2) เป็นเวอร์ชันที่อัปเดตจาก 3D Secure 1 (3DS1) โดยมีการยกเลิกใช้ 3DS1 ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2565
3. ถาม: 3D Secure คืออะไร ?
ตอบ: ระบบยืนยันความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการฉ้อโกงหรือทุจริต ทุกๆธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบผ่านการยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน จากธนาคารผู้ออกบัตร (รหัส OTP) ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ 3-D Secure คือ ทุกครั้งที่จะชำระเงิน ผู้ถือบัตรจะถูกเปลี่ยนเส้นทาง (Redirect) ไปยังหน้าเว็บไซต์ของธนาคาร ทำให้บางรายการชำระเงินไม่สำเร็จหากผู้ใช้ทำการปิดหน้าเว็บไซต์ไป
4. ถาม: 3D Secure 2 แตกต่างจากเวอร์ชันแรกอย่างไร ?
ตอบ: 3D Secure 2 (3DS2) จะวิเคราะห์ข้อมูล (Data Point) จำนวนมาก โดยจะตรวจสอบทั้งข้อมูลของผู้ถือบัตรและข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น รหัสเครื่อง, MAC Address, การระบุพิกัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และประวัติการทำธุรกรรมก่อนหน้านี้ และผู้ถือบัตรไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ถือบัตรจะไม่ได้รับรหัส OTP อย่างไรก็ตาม หากธนาคารพบว่า เป็นอุปกรณ์เครื่องใหม่ หรือตำแหน่งต่างไปจากที่เคยใช้งาน เช่น อยู่ต่างประเทศ ทางระบบธนาคารจะขอให้ผู้ถือบัตรทำการยืนยันตัวตนด้วยวิธีการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น การตรวจสอบผ่านรหัส OTP หรือการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า
ปรับปรุงเมื่อ